กรมทางหลวงชนบท รายงานความคืบหน้าโครงการ สะพานเชื่อมเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมอย่างบูรณาการ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กระทรวงคมนาคม รายงานความคืบหน้าโครงการ สะพานเชื่อมเกาะลันตา ตำบลเกาะกลาง – ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการเดินทางให้กับประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาระหว่างเกาะลันตากับแผ่นดินใหญ่ให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกรวดเร็วและปลอดภัย เป็นการเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมและการขนส่งให้มีความสมบูรณ์
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท
เปิดเผยว่า ทช. ได้ดำเนินการสำรวจออกแบบโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) ของสำนักนโยบายและเเผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และอยู่ระหว่างการขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งในปี 2566 ได้จัดทำคำขอภายในกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อเตรียมเสนอของบประมาณ จำนวน 1,854 ล้านบาท โดยจะใช้เงินกู้และงบสมทบจากงบประมาณประจำปี
ทั้งนี้ คาดว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มก่อสร้างประมาณปี 2566 และคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2568 ซึ่งจะสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ในปี 2569 ต่อไปเนื่องจากเกาะลันตาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่ โดยในปี 2561 มีปริมาณนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่เกาะลันตามากกว่า 2 ล้านคนต่อปี แต่การเดินทางข้ามฝั่งจากแผ่นดินใหญ่ไปยังเกาะลันตาต้องใช้แพขนานยนต์ ซึ่งใช้ระยะเวลาในการเดินทางนาน มีข้อจำกัด ด้านการบรรทุกและช่วงเวลาการให้บริการ
ทช. จึงได้ดำเนินโครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา ตำบลเกาะกลาง – ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เพื่อช่วยร่นระยะทางและลดระยะเวลาการเดินทาง โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดหรือเทศกาลจะใช้เวลาเพียง 2 นาที จากเดิม 2 ชั่วโมง รวมทั้งสามารถอพยพประชาชนได้อย่างรวดเร็วกรณีเกิดภัยพิบัติ โดยแนวเส้นทางโครงการจะเริ่มต้นจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4206 (กม. ที่ 26+620) ตำบลเกาะกลาง ไปบรรจบกับทางหลวงชนบทสาย กบ.5035 ตำบลเกาะลันตาน้อย ระยะทางรวม 2,240 เมตร ซึ่งก่อสร้างสะพานเป็นรูปแบบผสมผสานระหว่างสะพานคานขึง (Extradosed Bridge) และสะพานคานยื่น (Balanced Cantilever Bridge) ความยาวสะพาน 1,825 เมตร ขนาด 2 ช่องจราจร ช่องละ 3.75 เมตร ไหล่ทาง ข้างละ 2.5 เมตร พร้อมถนนต่อเชื่อมทั้งสองฝั่งรวมระยะทาง 415 เมตร
การไฟฟ้านครหลวง เตือน! ลงทะเบียนรับส่วนลดค่าน้ำค่าไฟ 1 ปี เป็นข่าวปลอม
การไฟฟ้านครหลวง (MEA) ทำการประกาศเตือนถึงกรณีข่าวที่ว่าเปิดให้ ลงทะเบียนรับส่วนลดค่าน้ำค่าไฟ เป็นระยะเวลา 1 ปี นั้น เป็นข่าวปลอม
(9 ก.พ. 2565) การไฟฟ้านครหลวง (MEA) ทำการประกาศแจ้งเตือนถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวที่ว่ามีการเปิดให้มีการ ลงทะเบียนรับส่วนลดค่าน้ำค่าไฟ เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยข่าวที่ว่านั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยมาตรการลดค่าน้ำ – ค่าไฟนั้น เป็นสำหรับผู้ที่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) เท่านั้น
โดยรายละเอียดของประกาศดังกล่าวนั้นมีด้วยกันดังนี้ จากกรณีการเผยแพร่ข้อความ และภาพ “ลงทะเบียนได้แล้ว!!! ลดค่าน้ำค่าไฟ 1 ปีเต็ม” ผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ นายจุมภฎ หิมะเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร MEA หรือ การไฟฟ้านครหลวง ชี้แจงว่า ปัจจุบันมีมาตรการส่วนลดค่าน้ำ-ค่าไฟจริง แต่เป็นมาตรการช่วยเหลือสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น โดยเป็นมาตรการที่เริ่มตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะมีการขยายระยะเวลามาตรการปีต่อปี ล่าสุด ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2564 ได้ขยายระยะเวลาเพิ่มเติมอีก 1 ปี คือ เป็นการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าประจำเดือนตุลาคม 2564 ถึงกันยายน 2565 นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มจำนวนเงินช่วยเหลือค่าไฟฟ้าจากเดิมรายละ 230 บาทต่อเดือน เป็น 315 บาทต่อเดือน
สำหรับรายละเอียดขั้นตอนการรับสิทธิ์ช่วยเหลือค่าไฟฟ้าของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังคงรูปแบบเดิม
กรณีที่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ยังไม่เคยลงทะเบียนรับสิทธิ์ช่วยเหลือค่าไฟฟ้ามาก่อน ให้ลงทะเบียนตามช่องทางของหน่วยงานการไฟฟ้าที่ดูแลในพื้นที่ของท่าน เช่น หากเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ กทม. นนทบุรี หรือสมุทรปราการ สามารถลงทะเบียนผ่าน MEA ได้ที่ http://meagate1.mea.or.th/welfareregis
– สำหรับผู้ที่เคยลงทะเบียนช่วยเหลือค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่ ขั้นตอนต่อมา เมื่อ MEA แจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนแล้ว ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าชำระค่าไฟฟ้าตามปกติ หลังจากนั้น MEA จะส่งข้อมูลการชำระค่าไฟฟ้าให้กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ใช้ไฟฟ้าซึ่งหากข้อมูลถูกต้องกรมบัญชีกลางจะโอนเงินช่วยเหลือค่าไฟฟ้าคืนเข้ามาในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามจำนวนค่าไฟฟ้าที่ใช้จริง แต่ไม่เกิน 315 บาท ให้กับผู้ได้รับสิทธิ์
– สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 1.1 ที่มีขนาดเครื่องวัดฯ ขนาด 5(15) แอมแปร์ เมื่อใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน จะได้รับสิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรี แทนการได้รับสิทธิ์ช่วยเหลือค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงผู้ที่แม้จะมีสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือค่าไฟฟ้าจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่หากใช้ไฟฟ้าเกิน 315 บาทต่อเดือน จะไม่ได้รับสิทธิ์ช่วยเหลือในเดือนนั้น ๆ เช่นกัน
Credit : viagraonlinefast.com vikburian.net vipdeowata.com vwafp.com wacompentablets.com waltonbarber.com warrantiesfortrucks.com wordwalkerpress.com zionway.net zorionakzuri.net